ค่า pH
ในสารละลายกรดหรือเบส จะมีทั้ง และอยู่ในปริมาณที่แตกต่างกัน จึงใช้ความเข้มข้นของหรือในสารละลายเป็นเกณฑ์บอกความเป็นกรด-เบสของสารละลายได้ เพื่อความสะดวกจึงกำหนดให้ใช้ความเข้มข้นของ เป็นเกณฑ์ โดยสารละลายกรดจะมี มากกว่า 1.0 x ส่วนสารละลายเบสมีน้อยกว่า 1.0 x เนื่องจากความเข้มข้นของมีค่าน้อยเช่นนี้ไม่สะดวกต่อการนำมาใช้ในปี พ.ศ.2411-2482 (ค.ศ. 1868-1939) นักชีวเคมีชาวสวีเดนชื่อ ซอเรสซัน ได้เสนอเปลี่ยนค่าความเข้มข้นของ ให้อยู่ในรูปที่ใช้งานได้สะดวก โดยการหาค่า log ของความเข้มข้น แล้วคูณด้วย -1 ทำให้เกิดเป็นค่าใหม่เรียกว่า pH กำหนดให้ pH มีค่าเท่ากับ -log
สารละลายในน้ำไม่ว่าจะเป็นกรด เบส หรือกลางย่อมประกอบด้วย H3O+ และ OH- เสมอโดยมีผลคูณของไอออนทั้งสองเท่ากับ 10-14 ดังนั้นถ้าทราบ [ H3O+] หรือ [H+] เพียงอย่างเดียวก็สามารถบอกได้ว่าสารละลายเป็นกรด เบส หรือเป็นกลาง เนื่องจาก [ H3O+] ในสารละลายมีค่าน้อยและเปลี่ยนแปลงในช่วงกว้าง จาก 1 mol dm-3 (1 M HCI ) ถึง10-14 mol dm-3 (1 M NaOH) การเขียนความเข้มข้นด้วยเลขยกกำลังที่ติดลบย่อยไม่สะดวกและผิดพลาดได้ง่าย ซอเรนเสน (Sorensen) จึงเสนอแนะให้ใช้มาตราส่วนใหม่ที่สะดวกกว่าซึ่งเรียกว่า มาตราส่วนpH (pH scale)
โดยนิยามว่า
pH = - log [ H+]
หรือ [ H+] = 10-pH
โดยสรุปแล้ว สารละลายกรดมีpH < 7 และ สารละลายเบสมีpH > 7
ส่วนสารละลายที่เป็นกลางจะมีpH เท่ากับ 7
เมื่อคำนวณ pH ของสารละลายที่เป็นกลางจะได้ดังนี้สารละลายที่เป็นกลางมี
= 1.0 x
log = log(1.0 x )
= log 1.0-7 log 10
ดังนั้น -log = 7 log 10 - log 1.0
= 7-0
ค่า pOH
โดยนิยามว่า pOH = - log [
ในน้ำบริสุทธิ์[H3O+] = [
นั่นคือ pH = pOH = 7 และ pH + pOH = 14
วิธีวัด pH ของสารละลาย
1. วิธีเปรียบเทียบสี
เป็นการวัด pH โดยเติมอินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมลงไปในสารละลายหรือใช้กระดาษชุบอินดิเคเตอร์(กระดาษ pH)
2. วัดความต่างศักย์
เป็นการวัด pH โดยใช้เครื่อง pH มิเตอร์ (pH meter) ซึ่งวัดความต่างศักย์ระหว่างขั้วไฟฟ้าแก้วและขั้วไฟฟ้ามาตรฐาน
การคำนวณค่า pH , pOH , [H+] , [OH-] , H+ , OH-
|
การหาค่า pH
อ้างอิง
- http://writer.dek-d.com/enoomod/story/viewlongc.php?id=313811&chapter=36
- https://www.youtube.com/watch?v=pGK8b9Y46t8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น